1. Lead Generation
คือการใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์, E-Mail Marketing, Mobile Marketing หรือแม้แต่ Internet เพื่อทำให้ คนที่สนใจติดต่อเข้ามาหาเราเอง ลองนึกถึงตัวคุณเอง เพราะคุณผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว
2. Screening
ในแต่ละวันจะมีคนที่สนใจติดต่อเข้ามาหาเราเป็นจำนวนมาก และด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลา เราไม่สามารถให้รายละเอียดกับทุกคนได้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นจะต้องมีการคัดเลือก โดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันอีกเช่นกัน ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนเลขาให้กับเรา คัดเลือกเฉพาะบุคคลที่จริงจังที่ในการสร้างรายได้ แล้วจึงทำการติดต่อกลับไป (ลองนึกถึงตัวคุณเองอีกครั้งว่า กว่าคุณจะได้รับจดหมายฉบับนี้คุณต้องทำอะไรบ้าง)
3. Training
เมื่อคุณตัดสินใจร่วมงานกับเรา เราจะมีระบบการสอนงานต่าง ๆ ให้ คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ระบบงานที่เรามีรองรับไว้ โดยเฉพาะใน 30 วันแรก ซึ่งเป็น 30 วันแห่งการเรียนรู้ คุณจะต้องทำตัวเองให้เป็นเสมือนแก้วน้ำที่ว่างเปล่าพร้อมที่จะเรียนรู้ เกี่ยวกับระบบการทำงานทั้งหมดที่เรามีให้กับคุณ เพื่อช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นสร้างธุรกิจ โกลบอล ริช คลับ จากที่บ้านของตัวเองได้
โปรดจำไว้ว่า!! ถ้าคุณหยุดเรียนรู้ ก็เปรียบเสมือนคุณหยุดที่จะมีรายได้
คุณ พร้อมหรือยังที่จะตัดสินใจร่วมธุรกิจกับ โกลบอล ริช คลับ!! คุณ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำของคุณ และไม่ควรลาออกจนกว่า คุณ จะทำรายได้ จากงานนี้ได้เพียงพอ อย่ารีรอที่จะตัดสินใจเข้ามาร่วมธุรกิจกับเรา
โอกาสมีอยู่รอบตัว ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะคว้าไว้ไหม !!!
หลายต่อหลายคนสงสัยกันว่า Global Rich Club เป็น Money Game หรือ แชร์ลูกโซ่ หรือเปล่า?อองขอถามกลับทุกๆ ท่าน 1 คำถามว่า "คุณเอาเงินไปฝากธนาคาร แล้วได้ดอกเบี้ยมาโดยที่ไม่ได้ทำอะไรให้กับธนาคารเลย การเอาเงินไปฝากธนาคาร เป็น Money Game หรือ แชร์ลูกโซ่ หรือเปล่า?"หลายๆ ท่านก็คงมีคำตอบในใจกันแล้วใช่ไหม เอาเป็นว่า มาอ่านคำอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับธุรกิจ Global Rich Club ด้านล่างนี้ก่อนแล้วกัน
1. สมัครแล้วคุณไม่มีสินค้า เท่ากับราคาเงินที่คุณลงไป นั่นคือมันนี่เกม เพราะเงินเหล่านั่นจะถูกจ่ายไปกับคนที่อยู่บนๆ (สินค้าต้องจับต้องได้) => GRC ให้ที่พักมูลค่ามากกว่าค่าสมัครสมาชิก ซึ่งคำนวณได้ดังนี้ เช่น คุณอร (ที่ปรึกษาอองเองค่ะ) สมัครสมาชิก Global Rich Club ด้วยเงิน 7,500 บาท คุณอรใช้สิทธิ์ไปพักที่โรงแรม The Royal Paradise Hotel ที่ภูเก็ต สอบถามแล้วถ้าเข้ามาจองเอง ด้วยห้องแบบเดียวกันนี้ อยู่ที่ราคาคืนละ 3,600 บาทครับ (3,600*3=10,800) และทุกสมาชิกที่ดำเนินการจองที่พัก สามารถจองได้ และได้พักจริงทุกคน
2.ไม่ต้องรักษายอด คำถามง่ายๆ มีธุรกิจไหนบ้างที่ไม่ต้องมียอดต่อเดือนแล้วธุรกิจนั้นมั่นคง เช่น คุณเปิดร้านกาแฟ คุณต้องมียอดขายว่ายอดเท่าไหร่คือเท่าทุน ยอดเท่าไหร่คือกำไร ทีนี้มาดูว่าเครื่อข่ายทำไมต้องรักษายอด ถ้าไม่มียอดขายบริษัทจะเอาเงินที่ไหนมาให้เรา ถ้าเอาแต่สมัครคนเข้ามาแล้วเราได้เงินนั่นคือมันนี่เกม
=> GRC นำเงินค่าสมัครเข้าไปหมุนเวียนโดยการลงทุนในรูปแบบต่างๆ คล้ายเราเอาเงินไปฝากธนาคาร ซึ่งธนาคารจะนำเงินจากผู้ที่ฝากส่วนใหญ่ไปลงทุนในธุรกิจต่างๆเช่นตราสารหนี้ (พวกพันธบัตรรัฐบาล), ตราสารทุน (เช่น หุ้น), อื่นๆตามที่ธนาคารมีพันธมิตรทางธุรกิจอยู่ ทำให้ธนาคารมีดอกผล สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กับเจ้าของบัญชี แม้จะไม่มีการเปิดบัญชีใหม่เข้ามาในธนาคารเลย ธนาคารก็อยู่ได้ ไม่มีใครเคยถามว่าธนาคารอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีคนนำเงินมาฝากเพิ่ม? เมื่อเทียบกับ GRC ก็เปรียบการนำเงินค่าสมาชิกไปลงทุนต่อนั่นเอง 1.ดอกผลที่จ่ายกลับมาอย่างแรกคือที่พักโรงแรม 4วัน 3คืน ซึ่งราคาที่บริษัทจ่ายจริงให้กับโรงแรมไม่มาก เท่าที่เราไปจ่ายเองเมื่อเข้าพักโรงแรม เนื่องจากเป็นพันธมิตรทางการค้ากัน ถ้าคุณนึกดีๆ โรงแรมที่มีห้องว่างจำนวนมาก (โรงแรมตรวจสอบโดยให้คุณจองล่วงหน้า 1 เดือน) เสียค่าดำเนินการนิดหน่อย (ยังไงเงินเดือนพนักงานก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว) ให้บริษัทพันธมิตร (เช่น GRC) จ่ายถูกๆมาใช้บริการก็ยังกำไรเยอะ 2.ดอกผลที่จ่ายกลับมาอย่างที่สองคือค่าคอมมิสชัน 400$ และ 8,000$ ก็ได้จากการลงทุนที่กล่าวไปนั่นเอง กว่าจะต้องจ่ายค่าคอมมิสชันแต่ละครั้ง ก็ใช้เวลาไม่มากก็น้อย จำนวนกระดานที่มีเยอะ (เหมือนธนาคารมีหลายบัญชี บางคนก็ถอนเงินไปเร็ว บางคนก็ถอนเงินไปช้า) ก็มีเวลามากพอที่จะจ่ายค่าคอมมิสชันให้กับสมาชิกได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่แค่เอาเงินของคนใหม่มาให้อย่าง Money Game คิดแบบนักลงทุน ยังไงบริษัทก็ยังกำไร เทียบกับธนาคาร หากมีคนถอนเงินพร้อมกันสักครึ่งหนึ่ง ของบัญชีทุกๆคน ธนาคารก็เจ๊งได้เหมือนกัน ไม่มีเงินจ่าย เพราะเงินส่วนใหญ่ก็เอาไปลงทุนอยู่นั่นเอง
3.การสมัครหลายรหัสในคนๆเดียว เปรียบเหมือนการระดมทุน
=> GRC ไม่ได้บังคับให้ใครสมัครสมาชิกมากกว่า 1 รหัส แต่หลายๆคนที่สมัครหลายรหัสเป็นการลงทุนที่มากขึ้น(บริษัทไม่ได้วาง Business Plan ไว้แบบนี้ด้วยซ้ำ) เพื่อได้ผลตอบแทนมากขึ้น ทวีคูณตามจำนวนรหัส และได้ผลตอบแทนเร็วและต่อเนื่อง เนื่องจากจะมีรหัสที่ต่อๆกันไปรับรายได้ต่อเนื่องหลังจากรหัสบนรับรายได้จากการหลุดจากตำแหน่งสูงสุด รหัสต่อมาที่อาจจะอยู่ใต้บนสุด ขึ้นไปอยู่บนสุดและรับรายได้ต่อเนื่องได้ทันที เปรียบเทียบคล้ายการฝากเงินในธนาคารเหมือนข้อ 2 โดยธนาคารไม่ได้บอกว่าใครต้องฝากเงินเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีคนนำเงินจำนวนมากไปฝาก เพื่อหวังดอกเบี้ย ยิ่งฝากมากก็จะได้รับดอกเบี้ยทวีคูณตามฐานของเงินที่ฝากเช่นกัน
4.สมัครมาแล้วไม่ต้องทำอะไรก็ได้เงิน
=> GRC ก็ไม่จ่ายค่าคอมมิสชันสำหรับสมาชิกที่ไม่มีการแนะนำสมาชิกใหม่และไม่ช่วยสมาชิกในกระดาน แต่ถ้าคุณมีการแนะนำสมาชิกใหม่ และช่วยสมาชิกใหม่ สมมติคุณ Sponsor ครบ 2 คน คุณสามารถรอรับรายได้โดยที่ไม่ต้องทำงานต่อได้เลย (ไม่แนะนำวิธีนี้นะคะ) เพราะบริษัทก็สามารถจ่ายค่าคอมมิสชันด้วยดอกผลที่ได้จากการลงทุน (ดูข้อ 2) ได้นั่นเอง
5.ทำเครือข่ายได้ล้านมีจริงและมากด้วย แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น และขอสรุปเปรียบเทียบ GRC กับธนาคาร เป็นตารางเพื่อความเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น
หัวข้อ | ธนาคาร | |
ต้นทุนของบริษัท/สมาชิก | เงินฝาก | ค่าสมัครสมาชิก 200$ หรือ 7,500บาท |
การถอนเงิน/ใช้สิทธิสมาชิก | ถอนเป็นจำนวนเงินเท่าเดิม ไม่เพิ่มค่าเสื่อมราคาของเงิน | โรงแรม 3-5ดาว 4วัน 3คืน มูลค่าไม่น้อยกว่าค่าสมัครสมาชิก |
วิธีการลงทุนของบริษัท | ลงทุนในตราสารหนี้ เช่นพันธบัตรรัฐบาล, ลงทุนในตราสารทุน เช่นในตลาดหุ้น, ลงทุนเอง เช่นลงทุนตั้งบริษัทประกันภัย เป็นต้น, และการลงทุนอื่นๆ | เหมือนกับธนาคาร |
การทำงาน | เจ้าของเงินไม่ต้องทำงาน | สมาชิกต้องมีการแนะนำสมาชิกและสร้างทีมงานเพื่อให้ได้รับรายได้เร็วและต่อเนื่องกันทั้งทีมงาน |
ผลตอบแทน | ดอกเบี้ยตามฐานของเงินฝาก (ปกติ 0.25-ไม่เกิน 5%) | ค่าคอมมิสชันเป็นก้อน 400$ เมื่อหลุดจากกระดานที่ 1 และ 8,000$ เมื่อหลุดจากกระดานที่ 2 แบบไม่จำกัดจำนวนรอบ |
สอบถามรหัสผ่าน หรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ออง โทร. 086-6969794
